นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

โรงเรียนสีตบุตรบำรุง ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โรงเรียนฯ จึงประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแจ้งรายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการจัดการเพื่อรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะผู้สมัครเรียน นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงเรียนฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล” หรือ “การประมวลผล”) ได้รับความคุ้มครองและเป็นไปตามกฎหมาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    1. คำนิยาม “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
    2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม โรงเรียนอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้:
      ข้อมูลทั่วไป เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขประจำตัวประชาชน
      ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
      – ข้อมูลเอกสารทางราชการ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาบัตรประจำตัวนักเรียน เป็นต้น
      – ข้อมูลทางการศึกษา เช่น ผลการเรียน ประวัติการเข้าเรียน ใบรับรองต่าง ๆ
      ข้อมูลสุขภาพที่จำเป็น เช่น ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
      ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการศึกษา
    3. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ หากคุณมีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือมีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เราอาจจำเป็นต้องให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองของคุณให้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ หากเราทราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เราจะดำเนินการลบข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของเรา
    4. วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
    5. วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โรงเรียนจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อ:
      – การจัดการด้านการศึกษา เช่น การลงทะเบียน การสอบ และการวิเคราะห์ผลการเรียน
      – การสื่อสารระหว่างโรงเรียนกับนักเรียนหรือผู้ปกครอง
      – การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โรงเรียนจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอก เว้นแต่มีกรณีดังต่อไปนี้:
      – ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลหรือผู้ปกครอง (ในกรณีนักเรียนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ)
      – เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานที่มีอำนาจ
      – จำเป็นต้องเปิดเผยให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานสาธารณสุข ในกรณีที่จำเป็น
    7. ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โรงเรียนจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว โรงเรียนจะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป
    8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  คุณมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้
      – สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากคุณได้ให้ความยินยอม เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่คุณให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
      สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) คุณมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราและขอให้เราทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่คุณ  รวมถึงขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาได้อย่างไร
      – สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่เราได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
      – 
      สิทธิขอคัดค้าน (right to object)  คุณมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่คุณสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
      – 
      สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) คุณมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ หากคุณเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อคุณได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
      สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) คุณมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของคุณหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่คุณขอให้เราระงับการใช้แทน
      – สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) คุณมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
      สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) คุณมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากคุณเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง


      คุณสามารถใช้สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ เราจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่เราได้รับคำขอใช้สิทธิจากคุณ ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่เรากำหนด ทั้งนี้ หากเราปฏิเสธคำขอเราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้คุณทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

    9. การโฆษณาและการตลาด
      เพื่อประโยชน์ในการได้รับสินค้าหรือบริการของเรา เราใช้ข้อมูลของคุณเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงสินค้าหรือบริการ และทำการตลาดผ่าน Google, Facebook, pixel tracking code และอื่น ๆ เราใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้สินค้าหรือบริการเหมาะสมกับคุณ

    10. เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (COOKIES) เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของคุณให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราใช้คุกกี้ (Cookies)หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของคุณ เราใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา หากคุณไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของเราได้
    11. การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

      เราจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้เราจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)

    12. การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

      ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเกิดขึ้น เราจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของคุณ เราจะแจ้งการละเมิดให้คุณทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น  เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

    13. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว เราอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยคุณสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเรานโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2568 

หากมีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อได้ที่ :
โรงเรียนสีตบุตรบำรุง
ที่อยู่: 87 ถ.จรัสเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 10330
โทรศัพท์: เบอร์โทรศัพท์ : 02-214-3738,02-215-7962 เบอร์โทรสาร : 02-611-9994
อีเมล: [email protected]

  •